ผู้เข้าชมทั้งหมด: 19
รายงานการศึกษาโอกาสการพัฒนาศักยภาพการค้าสินค้าอาหารสุนัขและแมวของไทย
ดาวน์โหลดเอกสารรายงานฉบับสมบูรณ์:
การส่งออกอาหารสุนัขและแมวมีแนวโน้มขยายตัว โดยในปี 2567 มีมูลค่าการส่งออก2,677.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 (YoY) และตลาดส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก มีมูลค่ารวม 2,147.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 80.2 ของมูลค่าการส่งออกอาหารสุนัขและแมวทั้งหมดของไทย ได้แก่ (1) สหรัฐอเมริกา (2) ญี่ปุ่น (3) ออสเตรเลีย (4) อิตาลี (5) มาเลเซีย (6) ฟิลิปปินส์ (7) เยอรมนี (8) ไต้หวัน (9) สหราชอาณาจักร และ (10) อินเดีย โดยการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทยมีปัจจัยสนับสนุนจากความนิยมเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนแนวโน้มของผู้ซื้อที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและโภชนาการของอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้นจากกระแสการเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกครอบครัว (Pet Humanization) ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกขยายตัวตาม ซึ่งไทยมีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบ
อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยมีจุดแข็งหลายด้าน ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบทางการเกษตร มาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งผลให้ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น การพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้า การแข่งขันจากแบรนด์ต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ และการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ในด้านโอกาส ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ และการขยายตัวของตลาดใหม่ ๆ เช่น CLMV ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย นอกจากนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ มาตรการกีดกันทางการค้า สถานการณ์เศรษฐกิจโลก และต้นทุนการดำเนินงานสูง ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและการแข่งขันในระยะยาว ในการนี้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของไทย